ครองอำนาจ ของ นีกอลาเอ ชาวูเชสกู

เติ้ง เสี่ยวผิง, ชาวูเชสกู และเลโอนิด เบรจเนฟ กรุงบูคาเรสต์ ค.ศ. 1965

ภายหลังประเทศโรมาเนียตกอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์เมื่อ ค.ศ. 1947 ชาวูเชสกูได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตร, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อมาใน ค.ศ. 1952 ได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อมาเมื่อนายกียอร์กีเย กียอร์กียู-เดฌ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์โรมาเนีย ถึงแก่อสัญกรรมใน ค.ศ. 1965 ชาวูเชสกูได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนที่สอง

ช่วงแรกของการครองอำนาจ ชาวูเชสกูมีนโยบายต่อต้านอิทธิพลของสหภาพโซเวียต ทำให้เขาได้รับความนิยมจากชาวโรมาเนียและจากชาติตะวันตก เขาอนุมัติกฎหมายเซ็นเซอร์สื่อและประกาศว่าโรมาเนียจะยุติบทบาทในกติกาสัญญาวอร์ซอ แต่ยังคงสถานะสมาชิกภาพอยู่ เขาประณามอย่างเปิดเผยต่อการบุกครองเชโกสโลวาเกียของฝ่ายกติกาสัญญาวอร์ซอใน ค.ศ. 1968 ซึ่งส่งผลให้ความนิยมของเขาพุ่งสูง ชาวูเชสกูมีความทะเยอทะยานนำพาประเทศโรมาเนียเป็นมหาอำนาจของยุโรป นโยบายของเขาด้านเศรษฐกิจ, การต่างประเทศ และกิจการในประเทศต่างถูกออกแบบมาเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น[4] ชาวูเชสกูดำเนินนโยบายต่างประเทศเข้าหาสหรัฐและชาติยุโรปตะวันตก โรมาเนียกลายเป็นประเทศแรกในกติกาสัญญาวอร์ซอที่ยอมรับอิทธิพลของเยอรมนีตะวันตกและเข้าร่วมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ต่อมาใน ค.ศ. 1971 โรมาเนียกลายเป็นสมาชิกในความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า ประเทศโรมาเนียกับประเทศยูโกสลาเวียเป็นเพียงสองชาติในยุโรปตะวันออกที่เข้าร่วมความตกลงทางการค้ากับประชาคมเศรษฐกิจยุโรปก่อนการล่มสลายของกลุ่มตะวันออก[5] ซึ่งใน ค.ศ. 1973 ชาวูเชสกูเป็นผู้นำชาติยุโรปตะวันออกคนแรกที่ได้ต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐ

หลัง ค.ศ. 1971 ชาวูเชสกูจัดตั้งลัทธิเชิดชูตัวเอง

แม้ว่าชาวูเชสกูมีนโยบายออกห่างโซเวียตและเข้าหาชาติเสรี แต่ในเวลาไม่กี่ปี รัฐบาลของเขากลายเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จและถูกกล่าวขานว่าเป็นรัฐบาลกดขี่ที่สุดในประเทศกลุ่มตะวันออก หลัง ค.ศ. 1971 เขาเริ่มออกโฆษณาชวนเชื่อและจัดตั้งลัทธิเชิดชูท่านผู้นำ มีรูปภาพของเขาติดอยู่ในทุกสถานที่ ตำรวจลับและฝ่ายความมั่นคงดำเนินการสอดแนมมวลชนและปราบปรามฝ่ายต่อต้าน มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการควบคุมคุกคามสื่อมวลชน

ความล้มเหลวในการร่วมทุนด้านกิจการน้ำมันในทศวรรษที่ 1970 นำไปสู่การพุ่งทะยานของหนี้ต่างประเทศ ส่งผลให้ใน ค.ศ. 1982 ประธานาธิบดีชาวูเชสกูสั่งการให้รัฐบาลประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัดในประเทศโรมาเนีย คริสต์ทศวรรษ 1980 เพิ่มการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ต่างประเทศ คุณภาพชีวิตของชาวโรมาเนียตกต่ำลงอย่างมาก

แหล่งที่มา

WikiPedia: นีกอลาเอ ชาวูเชสกู http://www.ceausescu.org/ceausescu_media/ultima-vi... http://www.country-studies.com/romania/demographic... https://web.archive.org/web/20180612141049/http://... http://jurnalul.ro/special-jurnalul/ceausescu-intr... http://www.biography.com/people/nicolae-ceausescu-... https://web.archive.org/web/20041230003913/http://... http://cidc.library.cornell.edu/dof/romania/romani... https://www.youtube.com/watch?v=2pk2rxHTrsQ https://archive.org/details/revolution1989fa00sebe https://commons.wikimedia.org/wiki/Category:Nicola...